ตอนเป็นวัยรุ่น ผมมีเพื่อนผู้ชายมากมายหลายคนที่เป็นสมาชิก "หน่วยล่าพรหมจรรย์" เขาทั้งหลายจะรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ "ทำแต้ม" ในการจีบทิ้งจีบขว้าง…เมื่อสาวหลงใหล ก็ผลักไสเพื่อหา(เหยื่อราย)ใหม่ต่อไป เก็บสถิติให้หมดทุกคณะในมหาวิทยาลัย จีบแล้วฟัน ฟันแล้วทิ้ง เป็นวัฏจักรแห่งกิจกรรมชีวิต…เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของชีวิต คนเรานี่ถ้าเป็นเอกในเรื่องความดีไม่ได้ ก็ไม่ขอเป็นรองใครในเรื่องชั่ว…เหมือนตัวผู้ร้ายในหนังเรื่อง Unbreakable จะมีวิธีการใดที่สาวๆ วัยรุ่นที่น่ารักทั้งหลาย จะหลีกหนีมิให้ตนต้องตกเป็นเหยื่อของบุคคลดังกล่าว…ผมตกผลึกมาได้ทั้งหมด 5 ขั้นตอน
1. อย่าเปิดโอกาส จากการสัมภาษณ์วัยรุ่นจำนวนมาก พบว่าการมีเซ็กส์ครั้งแรกไม่ได้เกิดขึ้นโดยความตั้งใจหรือมีการเตรียมความ พร้อม ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะบรรยากาศพาไป อยู่กันสองต่อสองหรือสถานที่ลับหูลับตา โดยหารู้ไม่ว่าสถานที่ดังกล่าวคือออฟฟิตของเหล่าบรรดาสมาชิกหน่วยล่า พรหมจรรย์ ถ้าเขาชักชวนไปในที่ดังกล่าว เราก็ขอเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ผู้คนชุกชุม เวลาค่ำมืดก็ต้องหลีกเลี่ยง…แผนการที่เขาได้วางไว้ ไม่สามารถลงมือได้…เพราะโอกาสไม่เอื้ออำนวย อย่าคิดว่าผู้ชายดีๆ จะไม่เคยคิดชั่ว…สมัยผมเป็นวัยรุ่นคิดชั่วเป็นประจำ แต่ดีอยู่อย่างคือไม่เคยลงมือ… เพราะไม่มีโอกาส…เดี๋ยวนี้ผมมีโอกาสมากมาย แต่ไม่ยอมลงมือ เพราะเลิกคิดชั่วแล้ว… จากวัยรุ่นอายุใกล้ 20 มาเติบโตจนถึงวัยเกือบ 40…จากคนที่คิดชั่วเป็นประจำ มาเป็นเลิกคิดชั่วแล้ว…การเปลี่ยนแปลงตรงนี้เราเรียกว่า "วุฒิภาวะ" (Maturity) – ส่วนหนึ่งของวุฒิภาวะคือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความต้องการของตนหรือ ยับยั้งชั่งใจที่จะกระทำตามความแรงขับภายในจิตใจของตนเอง หรือพูดให้จำง่ายๆว่า "สมองส่วนคิดควบคุมสมองส่วนอยาก" เพราะฉะนั้น ในท่ามกลางหมู่เพื่อนวัยหนุ่มฉกรรจ์ซึ่งยังอ่อนวุฒิภาวะ สมองส่วนอยากทำงานมากกว่าสมองส่วนคิด…การปิดโอกาสมิให้ผู้ชายประพฤติชั่ว มีค่าเท่ากับการเปิดโอกาสให้เขารักษาความดี…
2. อย่าเปิดเครื่องรางของขลัง ต้องรู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิง อารมณ์ทางเพศตื่นตัวเร็วช้าต่างกัน – ผู้ชายตื่นตัวง่ายเหมือนเตาแก๊ส ส่วนผู้หญิงตื่นตัวช้าเหมือนเตาถ่าน…บางคนต่อความยาวสาวความยืด…กะเทยตื่น ตัวแบบเตาอบไมโครเวฟ…เธอตั้งอุณหภูมิและเวลาได้ตามความเหมาะสม… เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าน้อยชิ้นหรือรัดรูป เห็นร่องรอยทรวดทรงองค์เอวของคุณผู้หญิง เป็นเสมือนเครื่องรางของขลัง ที่มีเวทมนต์ดลบันดาลให้ผู้ชายดีๆแปลงร่างกลายพันธุ์เป็นสุนัขป่าล่าเหยื่อ ได้ – ผู้หญิงอาจบอกว่าแต่งโชว์กันเองในหมู่เพื่อนหญิง หนูไม่คิดอะไรมาก…แต่ผู้ชายรู้สึกเยอะ เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้…แต่งโป๊ๆ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงเป็นหมู่ๆ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไปกับผู้ชายสองต่อสอง ต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง…เพราะผู้ชายอาจแก้มนต์ขลังของเราโดยการ "เสกเนื้อเข้าท้อง" หรือมันเล่น "ทำของใส่" …แล้วเราจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน
3. อย่าเปิดไฟเขียว เป็นผู้หญิงต้องหัดรู้จักปฏิเสธซะบ้าง ไม่ใช่ผู้ชายจะทำอะไร เราไม่ชอบก็ยอมเขาไปหมด ต้องรู้จักใช้ปากในการปฏิเสธ หัดพูดคำว่า "ไม่" "อย่า" "หยุด" …สองคำหลัง ห้ามพูดติดกัน! คำปฏิเสธของเราเปรียบเสมือนสัญญาณไฟแดงบอกให้ฝ่ายชายหยุดการกระทำใดๆ ที่เป็นการเคลื่อนไหว…ถ้ายังไม่หยุดแนะนำว่าควรลุกเดินหนี เพราะบางราย ถ้าเราแค่พูดเฉยๆ เขาอาจคิดว่าเราปฏิเสธพอเป็นพิธี เวลาไปดูหนังด้วยกัน ในโรงหนังจะปิดไฟมืด แม้มีคนมาก แต่ก็เหมือนอยู่กันสองต่อสอง ดูหนังไปอาจเห็นฉากเลิฟซีนรัญจวนใจยั่วเย้าให้เกิดอารมณ์…ขณะเดียวกันกับ ที่ฝ่ายชายก็รุกเร้าด้วยการสัมผัส อาจเริ่มต้นที่วงแขนก่อนที่จะขยายวงกว้างขึ้นๆ…เราเป็นผู้หญิง ไม่ถูกใจก็ต้องกล้าพูด "นี่เธอทำอะไร หยุดนะ! เอามือออกจากแขนฉันเดี๋ยวนี้….แล้วไปวางไว้ที่หน้าขา" …หมายถึงหน้าขาของฝ่ายชายครับ! อย่าเข้าใจผิด!
4. เจอกันครึ่งทาง บ่อยครั้งเหลือเกินที่ผู้หญิงเองก็ได้รับสัมผัสแห่งความรู้สึกอันอบอุ่น ไว้วางใจ เชื่อมั่น ปลอดภัย และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายซึ่งยากต่อการปฏิเสธ…คุณก็รอโอกาสนี้มานานแล้ว ความรู้สึกโหยหาและหวงแหนทำให้คุณมิอาจเอ่ยคำพูดอันเป็นเหตุทำให้ชายที่คุณ รักรีบ "ถอนสมอ" ขณะที่เขากำลังเตรียมพร้อมจะจอดเทียบ "ท่าใจ" ของคุณ คุณจึงไม่ยอมให้เขา "มือหลุด" เพราะไม่อยากให้เขา "หลุดมือ" ด้วยเหตุที่เขาเป็นผู้ชายที่คุณมองเห็นแล้วว่าดีพอสำหรับคุณ…อย่างที่เคย บอกกันอยู่ ผู้ชายดีๆ เดี๋ยวนี้หายาก…และผู้ชายดีๆ แท้ๆ ยิ่งหายากกว่า การสัมผัสทางกาย เป็นการสื่อสารความรู้สึกผูกพันต่อกัน บ่งบอกอีกหลากหลายอารมณ์ที่ถ้อยคำวาจาก็มิอาจแทนใจ…แต่คุณจะกั้นพรมแดนของ การสัมผัสอยู่แค่ไหน เพื่อที่จะถ่ายเทความรักจากใจสู่ใจระหว่างกัน…โดยที่คุณทั้งสองตระหนักถึง ความไม่พร้อมที่จะมี "กิจกรรมเข้าจังหวะ" ทางกายระหว่างกัน ถ้าแฟนขอที่จะร่วมรักด้วย แต่คุณคิดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะไปถึงจุดนั้น…ต้องรู้เทคนิคการเจรจา ต่อรองเพื่อพบกันครึ่งทาง…สถานการณ์สมมติ…
คุณพ่อจะทำยังไง ถ้าลูกสาวอยากให้คุณพาไปดูหนัง แต่คุณพ่ออยากนอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน จะไปดูหนังตามใจลูกสาวก็ฝืนใจตัวเอง จะบังคับให้ลูกสาวอยู่บ้านก็ไม่อยากขัดใจลูก…ทางออกที่ไม่ทำร้ายจิตใจทั้ง สองฝ่ายอาจเป็นการตกลงเช่า VDO มาดูที่บ้านดีกว่า…อย่างนี้เรียกว่า "เจรจาต่อรอง" เป็นการพบกันครึ่งทางโดยแท้ เพศสัมพันธ์ (Sexual Relationship) คือกิจกรรมทางกายระหว่างคนสองคน ไม่จำเป็นต้องเป็นการร่วมเพศ (Sexual Intercourse) เสมอไป…แต่เพราะคำว่าเพศสัมพันธ์ฟังแล้วนุ่มกว่าคำว่าร่วมเพศ คนทั่วไปจึงเอามาใช้แทนกัน เหมือนเราใช้คำว่า "แฟน" แทนคำว่า "สามีหรือผัว"…ดังนั้นต้องแยกความแตกต่างให้ออก หญิงชายที่รักกันจึงสามารถมีกิจกรรมทางผิวหนังให้เลือกมากมายตั้งแต่ จับมือ เดินจูงมือกัน คล้องแขน ซบไหล่ โอบคอ กอดเอว หอมแก้ม ซุกไซ้ซอกคอ จูบปาก กอดรัด(ฟัดเหวี่ยง) ถูไถไปมาภายนอก สำเร็จความใคร่ให้แก่กันและกัน และอื่นๆ อีกมากมาย……โดยไม่มีการ "เติมคำลงในช่องว่าง" …หัดพูดประโยคต่อไปนี้… "ฉันรักเธอมาก แต่ฉันยังไม่พร้อม แค่เธอกอดฉันไว้แน่นๆ ฉันก็มีความสุขแล้ว" "ฉันจะยอมต่อเมื่อเราเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น ตอนนี้เรามีอะไรกันภายนอกก็พอ"
5. รู้จักป้องกัน หากคุณทั้งสองพร้อมที่จะขยายพรมแดนกิจกรรมแห่งความรัก พร้อมที่จะพลีกายให้แก่กันและกัน สำหรับวัยรุ่นมีความเหมาะสมหรือไม่ ยังเป็นข้อถกเถียงกันทั่ว แต่อย่าติดเพียงแค่มองว่าเด็กมีปัญหา แต่ต้องมองให้เห็นรากเหง้าสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เดี๋ยวนี้วัยรุ่นรับวัฒนธรรมตะวันตกผ่านสื่อที่มีรูปแบบพัฒนาตามเทคโนโลยี ที่ทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่วัฒนธรรมไทยอ่อนกำลังลง…คำสอนประเภทให้รักนวลสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน กลายเป็นคำสอนเชยๆในสายตาวัยรุ่นซะแล้ว ฉะนั้นแทนที่ผู้ใหญ่จะมัวแต่ตำหนิพฤติกรรมวัยรุ่น เรามาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้วัฒนธรรมไทยเข้มแข็งขึ้นกว่านี้…เลิกคิด ว่าเด็กเป็นตัวปัญหา เพราะแท้จริงเขาเป็นเหยื่อของผู้ใหญ่…ที่อยากได้ตังส์จากเด็ก ในฐานะแพทย์ผมให้ความเห็นส่วนตัวว่า เซ็กส์ในวัยเรียนมีสองแบบ…เซ็กส์โง่กับเซ็กส์ฉลาด ถ้าถูกเขาหลอกกินไข่แดง หลงเชื่อคำหวาน ไม่รู้จักปฏิเสธ ไม่รู้วิธีป้องกัน อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์โง่ – โง่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง…แต่ผู้หญิงรับผลกรรม ถ้าผู้ชายมันไม่รับผิดชอบ แต่หากเซ็กส์นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรักอัน แน่นแฟ้น รู้จักป้องกันโทษที่อาจเกิดขึ้น คือ การตั้งครรภ์และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อย่างนี้เรียกว่าเซ็กส์ฉลาด ต้องรู้จักรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ทำแล้วมานั่งทุกข์ทรมานใจภายหลัง เช่นรู้สึกผิด เศร้า หรือกังวล…ไม่คุ้มเลยเมื่อต้องแลกกับความสุขแป๊บเดียว เสียวชั่วคราว แล้วต้องเศร้าเนิ่นนาน ทรมานใจไปชั่วชีวิต …ถุงยางอนามัยคือทางเลือกสุดท้ายจริงๆ หลังจากที่ผ่านมาหมดแล้วทุกขั้นตอนที่กล่าวมา หน้าที่ของผมก็คงให้ข้อมูลคุณได้เท่านี้… ส่วนหน้าที่ในการตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับเจ้าของอวัยวะเพศของตัวเอง…ของใครของมัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น